Tuesday, November 5, 2013
สอนเป็นคอร์ส สอนส่วนตัว?
เมื่อไม่นานมานี้มีฝรั่งคนหนึ่งส่งเมล์มาหาผมว่าตอนนี้ทำงานอยู่ในตะวันออกกลาง
กำลังจะเดินทางมาพักผ่อนกับเพื่อนและอยากเข้าฝึก โดยถามมาว่าคิดราคาคอร์สเท่าไร
ต้องการการสอนเป็นกลุ่มส่วนตัว ซึ่งพอผมได้เห็นก็ตอบกลับไปว่าเราไม่มีการสอนเป็นคอร์ส
และ ไม่มีการสอนส่วนตัว ทางนั้นเลยถามกลับมาอีกทีว่า "Why?" เพราะความไม่เข้าใจ
เรื่องแบบนี้เห็นได้บ่อยในโลกของทุนนิยมปัจจุบัน ที่วิชาการต่อสู้กลายเป็นสินค้าและบริการชนิดหนึ่งไปแล้ว ในศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมของญี่ปุ่นการเข้าฝึกไม่ได้เป็นไปโดยง่าย เพียงแค่จ่ายเงินเข้าและสมัยเข้าไปก็ได้แบบสมัยนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปวิชาสมัยใหม่เข้ามา และ ศิลปะการต่อสู้จำนวนมากกลายเป็นเรื่องของธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อวิชาไปเผยแพร่ในต่างแดน จนความเข้าใจของคนจำนวนมากผิดเพี้ยนไป
ในญี่ปุ่นนั้นปัจจุบันในวิชาศิลปะการต่อสู้โบราณส่วนมากที่ญี่ปุ่น ก็ยังไม่มีการสอนเป็นคอร์ส
ส่วนมากไม่มีการโฆษณา ไม่มีการประกาศว่าเปิดรับสมัครพร่ำเพรื่อ และ ฝึกกันอยู่ในกลุ่มเท่านั้น
ผู้ที่จะเข้าฝึกจะต้องค้นหา และ ขอเข้าฝึกเอง โดยมากจะต้องมีคนรับรองเพื่อเข้าฝึกด้วย
ในบูจินกันเองเช่นกัน ในญี่ปุ่นนั้นผมยังไม่เคยเห็นมีการสอนเป็นคอร์ส หรือ เป็นการสอนส่วนตัว
เพราะการสอนเป็นคอร์สนั้น ไม่ได้ประโยชน์สักเท่าไรสำหรับนักเรียนที่มาเข้าฝึกในแนวของบูโด
เนื่องจากคอร์สมีการเรียนที่ต้องจำกัดเวลา แต่คนส่วนมากที่เข้าฝึกประจำนั้น การฝึกเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ฝึกกันเป็นปีเป็นสิบปีก็เลยไม่สามารถทำเป็นคอร์สได้ ส่วนที่ไม่มีการสอนเป็นส่วนตัวนั้นก็เพราะคนสอนเองเกือบทุกคน(นอกจากที่เกษียณไปแล้ว)มีงานทำกันทั้งนั้น ไม่ได้ใช้วิชาที่ฝึกมาเพื่อการประกอบอาชีพ ดังนั้นจะไม่มีเวลาว่างเท่าไรนัก การสอนส่วนมากในญี่ปุ่นจึงอยู่ในวันเสาร์อาทิตย์และตอนเย็น นอกจากนั้นเวลาที่เหลือก็จะแบ่งแบบเวลาไปใช้กับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การใช้ชีวิตกับครอบครัว การพักผ่อน เรื่องการที่จะมาจ้างสอนคอร์สส่วนตัวจึงออกจะดูเป็นเรื่องประหลาดทีเดียว
จริง ๆ แล้วคนฝึกใหม่หลายคนยังมีความเชื่อผิด ๆ เป็นอันมากเรื่องการเรียนเป็นคอร์ส หรือ การเรียนตัวต่อตัวว่าจะได้ความรู้มากกว่าการเรียนในคลาสธรรมดา แต่โดยส่วนตัวเองด้วยประสบการณ์ผ่าน ๆ มาผมไม่คิดแบบนั้น
การเรียนเป็นคอร์สระยะสั้น ในบางวิชาอาจจะทำได้ เช่น คอร์สสอนการป้องกันตัวพื้นฐานต่าง ๆ
แต่ในวิชาที่ใหญ่และมีเรื่องต้องถ่ายทอดมากไม่มีทางทำได้ เพราะ อย่างในบูจินกันเองการฝึกฝนจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาคนที่ฝึกสิบปีผ่านไปก็ยังพบว่าวิชามีความยากอยู่ แล้วคนที่เรียนเพียงไม่กี่ครั้งจะได้อะไรจากการฝึก โดยส่วนมากที่โรงฝึกหกเดือนถึงปีแรกจะมุ่งหวังที่การฝึกเคลื่อนไหวพื้นฐาน การหัดล้ม และท่าพื้นฐานต่าง ๆ เพียงเท่านั้น ซึ่งส่วนมากสองสามเดือนแรกม้วนหน้าหลังจะยังไม่รอดกันเลย ถ้าทำคอร์สฝึกสามเดือนดูท่าจะได้เงินเยอะแต่สงสารนักเรียนที่จะได้ฝึกอะไรเพียงผิวเผินเท่านั้น
ส่วนการเรียนแบบส่วนตัวนั้นในบางวิชาอาจจะมีผลดี แต่ในบางวิชาผลอาจจะต่างกันไป เพราะศิลปะการต่อสู้ผลที่ได้มาจากการซ้อม การฝึกฝนจนชำนาญ คู่ซ้อมควรจะมีความหลากหลาย ไม่ใช่เพียงคนสองคนเท่านั้น ในการฝึกด้วยระยะเวลายาวนานคนฝึกจะได้เจอกับคู่ฝึกหลาย ๆ แบบ ทั้งตัวเล็กใหญ่ น้ำหนัก ขนาดร่างกาย ลักษณะกล้ามเนื้อ โครงร่างกระดูก ความอึด การตอบโต้ ฯลฯ ทั้งหมดนั้นจะสร้างขึ้นมาในตัวคน ๆ หนึ่งได้จะใช้เวลานานพอสมควรทีเดียว เมื่อเทียบกับแล้วการเรียนในคลาสธรรมดาทั่วไปในระยะเวลานานจึงมีความสำเร็จดีกว่า
คำว่า "โด" ในอักษรคันจินั้นเป็นแปลได้หลายความหมาย เช่น แนวทาง, วิถี, ถนน
เมื่อจะเข้าสู่ "โด" ในวิถีแห่งศิลปะการต่อสู้แล้วทางที่จะไปนั้นยาวไกล บางคนอาจจะเดินไปไม่สุดทาง
บางคนอาจจะไปไกลมากกว่าคนอื่น แต่ยังไงก็ตามขอแนะนำอย่าหวังอะไรเพียงฉาบฉวยและมองสั้นเกินไป